การประเมินตามสภาพจริง
การประเมินตามสภาพจริง (Authentic Assessment) คือ การประเมินผลที่ใช้วิธีการและเกณฑ์ที่หลากหลายในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ความสามารถ และคุณลักษณะต่างๆ ของผู้เรียนอย่างเต็มเวลาของกิจกรรมในแต่ละโปรแกรม โดยให้ผู้เรียนได้ทำกิจกรรมหรือสร้างผลงานออกมาเพื่อแสดงตัวอย่างของความรู้และทักษะที่ตนมี ซึ่งกิจกรรมที่นำมาใช้ในการประเมินนั้นจะมีลักษณะเหมือนและเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมการเรียนรู้มากกว่าเป็นการทดสอบ และข้อมูลของการประเมินผลได้มาจากทั้งการเก็บรวบรวมผลงานที่ผู้เรียนได้ปฏิบัติอย่างสอดคล้องกับชีวิตประจําวัน การสังเกตพฤติกรรม ควบคู่ไปกับการทดสอบความรู้ความเข้าใจ การประเมินจากสภาพจริงจะไม่เน้นการประเมินเฉพาะทักษะพื้นฐาน แต่จะเน้นการประเมินทักษะการคิดที่ซับซ้อนในการทำงานของนักเรียน ความสามารถในการแก้ปัญหาและการแสดงออกที่เกิดจากการปฏิบัติในสภาพจริงในการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง โดยที่ผู้เรียนจะเป็นผู้ค้นพบ ผลิตความรู้ และได้ฝึกปฏิบัติจริง รวมทั้งเน้นพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน เพื่อสนองจุดประสงค์ของหลักสูตรและความต้องการของสังคม การประเมินผลจากสภาพที่แท้จริงจะแตกต่างจากการประเมินผลการเรียนหรือการประเมินเพื่อรับรองผลงาน เพราะเน้นการให้ความสำคัญกับพัฒนาการและความต้องการช่วยเหลือและการประสบความสำเร็จของผู้เรียนแต่ละคนมากกว่าการประเมินผลการเรียนที่มุ่งการให้คะแนนผลผลิตและจัดลำดับที่ แล้วเปรียบเทียบกับกลุ่ม เนื่องจากจะวัดผลโดยตรงในสภาพการแสดงออกจริงๆ ในเนื้อหาวิชา ซึ่งการทดสอบด้วยข้อสอบจะวัดได้เฉพาะความรู้และทักษะบางส่วนและเป็นการวัดโดยอ้อมเท่านั้น นอกจากนี้การประเมินผลจากสภาพที่เป็นจริงจะมีความต่อเนื่องในการให้ข้อมูลในเชิงคุณภาพที่เป็นประโยชน์ต่อผู้สอนเพื่อใช้เป็นแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้เหมาะกับแต่ละบุคคล โดยใช้วิธีการที่หลากหลาย ทักษะการทำงาน ความสามารถในการแก้ปัญหา และการแสดงออกจากการปฏิบัติในสภาพจริง อยู่บนพื้นฐานของเหตุการณ์จริงในชีวิตจริง เน้นพัฒนาการที่ปรากฏให้เห็นทั้งในและนอกห้องเรียน โดยมีผู้เกี่ยวข้องในการประเมินหลายฝ่าย และเกิดขึ้นได้ในทุกบริบทเท่าที่จะเป็นไปได้ รวมทั้งเป็นการประเมินในลักษณะที่ไม่เป็นทางการ
๑. ครูสังเกตผู้เรียนเป็นระยะๆในช่วงการเรียนการสอน โดยกำหนเครื่องมือประกอบการสังเกตไว้ล่วงหน้า ได้แก่
๑.๑ แบบบันทึกเหตุการณ์ ครูบันทึกข้อมูลสำคัญ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้เรียนในแต่ละวันเพื่อชี้ให้เห็นความก้าวหน้าของผู้เรียน
๑.๒ แบบตรวจสอบรายการ ครูมีรายการที่ต้องสำรวจไว้ล่วงหน้า ในด้านคุณลักษณะ ทักษะ ความสนใจ พฤติกรรมต่างๆเพื่อชี้ให้เห็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นและความถี่ของพฤติกรรม
๑.๓ แบบประเมินค่า ครูมีแบบบันทึกความสามารถที่คาดหวังเป็นมาตราส่วนประมาณค่า เพื่อวัดระดับพฤติกรรมและความสามารถของผู้เรียนในเรื่องต่างๆ
๒. ครูใช้การสัมภาษณ์เพื่อให้ได้ข้อมูลผู้เรียนได้รับรู้ หรือเกิดการเรียนรู้ ในสิ่งที่เรียนไปหรือไม่ รวมถึงความก้าวหน้าในการเรียนรู้
๓. การประเมินตนเองของผู้เรียน เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้รับรู้ความก้าวหน้าในการเรียนรู้ของตนเองจากกระบวนการจัดการเรียนรู้ของครู ซึ่งเป็นข้อมูลให้ครูได้ปรับปรุงกิจกรรมการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับผู้เรียน เครื่องมือที่ใช้อาจเป็นการจดบันทึกประจำวันของผู้เรียน การใช้เกณฑ์การให้คะแนน การให้สรุปเรื่องที่อ่านและแสดงความคิดเห็นต่อการอ่าน เป็นต้น
๔. ประเมินโดยเพื่อน เป็นการให้เพื่อร่วมชั้นเรียนเป็นผู้ให้ข้อมูลตามเกณฑ์การให้คะแนน
๕. ประเมินภาคปฏิบัติ ครูให้ผู้เรียนได้กระทำจริงโดยสร้างชิ้นงานต่างๆ เช่น การนำเสนอปากเปล่า การเล่าเรื่อง การวาดภาพ และอาจให้นำเสนอโดยการให้จัดนิทรรศการ ผลงานที่แสดงนี้จะถูกประเมินด้วยครู ผู้เรียน และเพื่อน โดยใช้เกณฑ์การให้คะแนน
๖. ทดสอบด้วยเครื่องมือวัด โดยใช้แบบทดสอบที่วัดได้ครอบคลุมผลการเรียนรู้ อาจเป็นแบบทดสอบอัตนัย หรือแบบทดสอบอัตนัย
๗. ประเมินแฟ้มสะสมงาน เป็นการให้ผู้เรียนสะสมผลงานต่างๆที่แสดงถึงความก้าวหน้าของการเรียนในช่วงระยะเวลาต่างๆในแฟ้มสะสมงานอาจประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ ชิ้นงานจากภาระงานที่กำหนดผลการประเมินตนเองและผลจากกิจกรรมการเรียนรู้อื่นๆ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น